ลิง 6 ตัว

คอลัมน์ คุยกับประภาส โดย ประภาส ชลศรานนท์

วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังถึงห้องๆ หนึ่งครับ ห้องนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ต้องการหาคำตอบของพฤติกรรมอย่างหนึ่งของ "สัตว์สังคม" บอกก่อนเลยก็ได้ครับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ลักษณะของห้องที่ว่านี้เป็นห้องโล่งๆ ที่มีความสูงกว่าห้องทั่วไปสักสองเท่าทั่วทั้งห้องตบแต่งให้ดูคล้ายป่าโปร่งๆ สามารถมองเห็นทุกส่วนของห้องได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหน ที่สำคัญคนที่สร้างห้องนี้ขึ้นมาสามารถมองมาจากนอกห้องก็เห็นทุกส่วนของห้องได้ตามมุมห้องมีหินก้อนเท่าลูกแตงโมวางประดับอยู่ประปราย นอกจากสิ่งประดับอย่างที่เห็นด้วยตาเหล่านี้แล้วห้องนี้ยังมีท่อโลหะเล็กๆ โผล่ออกมาจากเพดานและผนังเต็มไปหมด กลางห้องมีบันไดอย่างที่เขาเรียกกันว่าบันไดลิงตั้งอยู่ บันไดนี้ตั้งตรงสูงขึ้นไปถึงเพดาน ตามต่อไปเรื่อยๆ นะครับ

บันไดอันนี้แหละครับคือพระเอกของเรื่องนี้ แล้วมนุษย์ผู้สร้างห้องก็ไปหาลิงมาหกตัว พวกเขาพาพวกมันเข้าไปอยู่ในห้องที่ว่านี้ลิงหกตัวนั้นมาจากต่างที่ต่างครอบครัวกัน แรกๆ ก็ร้องเจี๊ยกจ๊ากโวยวายตามประสาลิง พอเริ่มปรับตัวได้ลิงทั้งหกก็เริ่มผูกมิตรกัน บางตัวก็สนิทกันเป็นพิเศษและมีบ้างเหมือนกันในบางคู่ที่ดูก็ออกว่าไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่ลิงทั้งหกตัวก็อยู่ด้วยกันอย่างสันติ อาจเป็นเพราะอาหารที่มนุษย์ผู้สร้างห้องนำเข้ามาแจกจ่ายนั้นไม่ขาดตกบกพร่องอะไร อยู่มาวันหนึ่งฝ้าเพดานตรงที่บันไดพาดถึงก็ถูกเปิดออก กล้วยหอมสุกเหลืองอร่ามหวีหนึ่งถูกหย่อนลงมาจากเพดาน และก็แขวนเท้งเต้งไว้ที่ยอดสุดของบันไดจากนั้นฝ้าเพดานก็ปิดลงมา เดาออกใช่ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น ลองให้ลิงอยู่กับกล้วยกันตามลำพังอย่างนี้และยิ่งเวลานั้นเป็นเวลาของมื้ออาหารพอดีเสียด้วย

ใช่ครับ... ลิงทั้งหกพุ่งตัวไปที่บันไดกลางห้องทันที เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นหรือครับ ท่านผู้อ่านบางท่านคงตั้งคำถามไว้ในใจแล้วว่ามนุษย์ผู้สร้างห้องของลิงทั้งหกนี้คงต้องทำกลไกอะไรบางอย่างไว้ ให้ในห้องบ้างเป็นแน่ ทันทีที่ลิงตัวแรกเข้าไปถึงบันไดและมือของมันสัมผัสบันไดปลายท่อโลหะที่มีอยู่เต็มไปหมดบนผนังและเพดานห้องก็พ่นฉีดน้ำเย็นจัดออกมาอย่างแรง น้ำนั้นเย็นเฉียบอุณหภูมิใกล้ๆ น้ำแข็งเลยครับ และก็พ่นออกมาด้วยแรงดันค่อนข้างสูงลิงทั้งหกแตกกระจายไปหลบตามมุมห้องทันที เพราะดูเหมือนว่าผู้สร้างห้องนี้ขึ้นมาจงใจจะให้ตรงบริเวณที่บันไดตั้งอยู่มีท่อน้ำมากกว่าที่อื่นเป็นพิเศษ ลิงกับน้ำนี่ไม่ค่อยถูกกันอยู่แล้วบางตัวร้องลั่นด้วยความตกใจ บางตัวแอบนั่งตัวสั่นอยู่หลังก้อนหิน ถึงตอนนี้ห้องทั้งห้องก็เปียกไปหมดแล้ว หนำซ้ำความหนาวเย็นก็เริ่มแผ่ไปทั่วทั้งห้องด้วยฝีมือการลดอุณหภูมิของมนุษย์ผู้สร้างห้อง เหมือนเป็นสัญญาณอะไรบางอย่าง เมื่อลิงทั้งหกอยู่ห่างจากบันไดได้สักพัก ท่อน้ำก็หยุดฉีดน้ำปุ่มที่ควบคุมอุณหภูมิห้องถูกมนุษย์ปรับเข้าที่เดิม ลิงตัวที่โตที่สุดยังคงจ้องมองกล้วยหวีนั้น และด้วยความอยากได้ มันคลานเข้าไปหาบันไดอีกครั้งหลังจากเดินวนรอบบันไดอยู่สองสามรอบ มันก็ทำท่าจะปีนบันได ลิงอีกห้าตัวค่อยๆ คลานเข้ามาสมทบไม่รู้จะด้วยกลัวถูกลิงตัวอื่นๆ แย่งกล้วยหรือด้วยความหิว เพราะถึงมื้ออาหารแล้วเจ้าลิงตัวโตตัวนั้นรีบปีนบันไดขึ้นไปทันที และก็ในทันทีเช่นเดียวกัน น้ำเย็นเฉียบถูกฉีดออกมาอย่างแรงไม่แพ้ครั้งแรก เจ้าลิงตัวโตนั้นโดนเข้าเต็มๆหน้าจนแทบจะตกจากบันได ห้องทั้งห้องหนาวและเปียกยิ่งกว่าเดิม อาหารประจำมื้อถูกนำเข้ามาให้แล้ว พวกมันคลานเข้ามากินอย่างมูมมามด้วยความหิวและหนาวสั่น

เวลาผ่านไปอีกราวสัปดาห์ กล้วยถูกเปลี่ยนหวีใหม่ เพราะหวีเก่านั้นงอมจนเปลือกดำไปหมดมนุษย์ผู้สร้างห้องนี้ขึ้นมาบันทึกไว้ว่า หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาท่อน้ำได้ฉีดออกมาทั้งสิ้นห้าครั้ง สองครั้งแรกฉีดออกมาตอนที่กล้วยเพิ่งนำมาแขวนใหม่ๆ ครั้งที่สามฉีดออกมาตอนกลางคืนของคืนนั้นเพราะเจ้าลิงตัวโตพยายามจะลองปีนบันไดไปเอากล้วยอีก ในครั้งที่สี่ท่อฉีดน้ำออกมาในบ่ายของอีกวันหนึ่งมันเป็นเวลาอาหารมื้อหนึ่งที่ผู้ให้อาหารนำอาหารมาส่งช้าไปหน่อยลิงตัวหนึ่งทนหิวไม่ไหวจึงจะปีนบันไดขึ้นไป และไม่ทันถึงขั้นที่สองดีห้องทั้งห้องก็เปียกชุ่มไปหมด ส่วนในครั้งที่ห้าที่ท่อน้ำฉีดออกมา คราวนี้ไม่ได้มีลิงตัวใดปีนบันไดขึ้นไปเอากล้วยแต่อย่างใดมีเพียงแค่ลิงสองตัวเล่นปล้ำกันและตัวหนึ่งกลิ้งไปถูกเสาบันไดเท่านั้น แต่ถึงแค่นั้นน้ำเย็นจัดก็ถูกฉีดออกมาเช่นกัน

เวลาผ่านไปอีกราวเดือนหนึ่ง กล้วยถูกเปลี่ยนไปแล้วเจ็ดหวี แต่บันทึกของมนุษย์ผู้สร้างห้องกลนี้ยังคงบันทึกไว้ว่าท่อน้ำเย็นทำงานไปเพียงห้าครั้งเท่าเดิม ในบันทึกนั้นยังเขียนเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ไม่มีลิงตัวไหนย่างกรายเข้าไปใกล้บันไดเลย

กลางเดือนที่สอง ท่อน้ำถูกฉีดอีกครั้ง เพราะลิงตัวเล็กตัวหนึ่งพยายามจะปีนบันไดอีกและหลังจากน้ำหยุดฉีดลง ลิงอีกห้าตัวก็เริ่มคำรามใส่ลิงตัวเล็กตัวนั้น

ขึ้นเดือนที่สาม มนุษย์นำลิงตัวเล็กออกมา และก็นำลิงตัวใหม่เข้าไปในห้อง และไม่ทันถึงสิบนาทีดีกลิ่นกล้วยหอมก็เริ่มก่อคดี ลิงตัวใหม่คลานไปที่บันไดอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่สายตามองกล้วยด้วยความอยากกินสุดขีด และแน่นอนทันทีที่เข้ามาใกล้บันไดลิงห้าตัวที่อยู่มาก่อนก็พุ่งตัวเข้ามาขวางไว้ พร้อมกับแยกเขี้ยวอย่างดุร้าย น้ำเย็นยังไม่ถูกฉีดออกมา ลิงตัวใหม่หลบไปนั่งอยู่ข้างก้อนหินอย่างหวาดกลัว หลังอาหารมื้อนั้น ลิงตัวใหม่คลานเข้าไปนั่งดูหวีกล้วยที่แขวนบนบันไดอีกครั้งคราวนี้มันเข้าไปใกล้กว่าเดิม หอมยวนใจอะไรอย่างนี้ ผมว่ามันคงคิด ด้วยความที่มันเข้ามาใกล้บันไดเกินไป ลิงตัวโตจึงพุ่งเข้ามาเป็นตัวแรกและก็งับแขนของลิงตัวใหม่ด้วยความโกรธ ลิงตัวเก่าอีกสี่ตัวไม่รอช้าครับรีบเข้ามาสมทบและมหกรรมหมาหมู่ในสังคมลิงก็อุบัติขึ้น ถึงจะมีแผลไม่มากนัก แต่ลิงผู้มาใหม่ก็ถูกโจมตีอย่างนี้ถึงสามสี่ครั้งที่เผลอเข้าไป ใกล้บันไดและจากนั้นเป็นต้นมา ลิงใหม่ก็ไม่กล้าเฉียดกายเข้าไปใกล้บันไดอีกเลย

เวลาผ่านไปอีกสี่เดือน ท่อน้ำก็ยังไม่ถูกสั่งให้ทำงานอีกเลยแม้กล้วยจะถูกเปลี่ยนไปไม่รู้กี่สิบหวีแล้ว และถึงตอนนี้ลิงตัวเก่าได้ถูกเปลี่ยนออกไปแล้ว 3 ตัวเท่ากับว่าในห้องตอนนี้มีลิงตัวเก่าที่เคยเจอปรากฏการณ์หนาวสะท ้านโลกเพียง 3 ตัวและลิงตัวใหม่ที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์นั้น 3 ตัว รวมทั้งหมดเป็น 6 วานรดังเดิม

เดือนที่ห้า ลิงตัวใหม่ตัวที่สี่กำลังถูกนำเข้ามา ลิงตัวเก่าตัวหนึ่งกำลังจะออกไป ไม่น่าเชื่อนะครับว่าบันไดธรรมดาอันนั้นได้กลายเป็นบันไดอาญาสิทธิ์ที่แตะต้องไม่ได้ไปเสียแล้วสำหรับหมู่วานรและก็เช่นเดิมทุกครั้งที่ลิงตัวใหม่จะถูกรุมกัดทันทีที่ย่างกรา ยเข้าไปใกล้บันไดแต่ที่น่าแปลกใจอย่างที่สุดก็คือ ลิงกลุ่มใหม่สามตัวที่เข้ามาทีหลังนั้นแม้จะไม่รู้ว่าเหตุผลของการปกป้องบันไดคืออะไรก็ตาม แต่พวกมันกลับแสดงอาการข่มขู่ผู้เข้าใกล้บันไดอย่างดุร้ายก้าวร้าวกว่าลิงตัวเก่าที่เคยอยู่มาก่อนเสียอีก และเมื่อบันทึกของมนุษย์ผู้สร้างห้องกลนี้บันทึกถึงตอนที่ลิงตั วเก่าถูกเปลี่ยนออกไปจนหมดทำให้ห้องทดลองนี้มีลิงทั้งหกตัวเป็นลิงตัวใหม่ทั้งหมด บันไดก็ยังเป็นสิ่งต้องห้ามของพวกมัน กล้วยยังคงถูกเปลี่ยนให้สดใหม่อยู่เสมอ และบันไดก็ยังคงไม่ถูกสัมผัสโดยลิงเลยแม้แต่ตัวเดียวมาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว ลิงรุ่นใหม่ยังคงถูกเปลี่ยนเข้าไปอีกหลายรุ่นและเมื่อใดก็ตามที่ลิงตัวใหม่ที่เพิ่งเข้ามาพาตัวเองเข้าไปใกล้ บันได ไม่ว่าจะด้วยจุดหมายใดก็ตามการขู่คำรามก็จะเกิดขึ้น และถ้าผู้มาใหม่ไม่เชื่อฟัง การโจมตีอย่างรุนแรงก็จะตามมา

การทดลองของนักวิทยาศาสตร์เรื่องนี้บอกอะไรเราบ้าง นักวิชาการหลายคนพูดถึง CORPORATE CULTURE ซึ่งมีคนแปลไว้ว่า วัฒนธรรมองค์กร แปลไทยเป็นไทยอีกทีก็คือธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกสั่งสมกันมาจากพนักงานรุ่นก่อนๆ และเมื่อพนักงานใหม่ๆที่เข้ามาก็จะปฏิบัติตามโดยไม่รู้ที่มาของเหตุผล เป็นธรรมเนียมที่ไม่มีลายลักษณ์อักษรบ่งบอกไว้ไม่มีในกฎระเบียบข้อใดขององค์กรเลย

นักประวัติศาสตร์บางคนฟังเรื่องการทดลองนี้แล้วนึกไปถึงในครั้งอดีตที่มีการสั่งประหารชีวิตผู้ที่ประกาศทฤษฎีอะไรก็ตามที่ขัดต่อหลักศาสนาของตัวเอง นักศึกษาอีกหลายคนนึกถึงระบบรุ่นโซตัสของรุ่นพี่รุ่นน้องที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย น้องผู้หญิงของผมคนหนึ่งที่ผมเล่าเรื่องการทดลองนี้ให้ฟัง เธอทำหน้าแหยๆ แล้วก็พูดว่ามนุษย์เรานี่ใจร้ายชอบทรมานสัตว์ ผมคิดเอาว่าที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ลิงเป็นสัตว์ทดลองครั้งนี้ก็เพราะลิงเป็นสัตว์ที่ฉลาดใกล้เคียงกับมนุษย์ และที่สำคัญลิงเป็นสัตว์สังคมเหมือนมนุษย์ถ้าเราลองเปลี่ยนสัตว์ในการทดลองนี้ไปเป็นสัตว์ที่ต่างตัวต่างอยู่ไม่ได้อยู่กันเป็นสังคมอย่างเสือหรือนกบางประเภท ผลที่ได้อาจออกมาเป็นอีกอย่างหนึ่ง เช่นไม่ว่าอีกตัวหนึ่งจะพยายามปีนบันไดเท่าไรก็ตาม ตัวอื่นๆ ก็อาจจะไม่สนใจอะไรได้แต่นอนหลบน้ำเย็นที่ฉีดออกมาไปเรื่อยๆ การทดลองเรื่องลิงหกตัวยังไม่จบแค่นั้นครับ หลังจากที่มนุษย์ทำให้บันไดตัวนั้นกลายเป็นบันไดอาญาสิทธิ์ไปแล ้ว การแขวนกล้วยก็ถูกยกเลิกไปแต่ลิงทั้งหกตัวก็ยังไม่มีตัวไหนกล้าที่จะเข้าไปใกล้บันได คงต้องรอสักวันหนึ่งที่บังเอิญมีลิงตัวไหนพลาดไปถูกบันไดเข้า แล้วก็มนุษย์ก็บังเอิญลืมเปิดน้ำฉีดลงมาความคิดกบฏต่อความเชื่อเก่าๆ ก็อาจจะบังเกิดขึ้น หรือว่าโลกเรานี้ก็คือห้องๆ หนึ่งที่ถูกใครก็ไม่รู้สร้างขึ้นมาสร้างเสร็จแล้วก็สร้างความเชื่อตามมาให้ด้วยและก็มีความเชื่อมากมายหลายอย่างที่เป็นความเชื่อที่ไม่ได้ตั้ง อยู่บนเหตุผลเป็นความเชื่อประเภทเดียวกับความเชื่อที่ว่าถ้าใครไปถูกบันไดแล้วจะมีน้ำฉีดออกมานั่นแหละครับ มันอยู่ที่ว่าจะมีลิงตัวไหนกล้าปีนบันไดไปเอากล้วยที่แขวนอยู่ เพราะถ้ามันไม่ใช่เหตุผลจริงๆ มันต้องมีสักวันหนึ่งหรอกน่าที่เจ้าคนที่สร้างห้องนี้ขึ้นมามันลืมเปิดท่อน้ำบ้าง

... จากคุณ : Awaken - [ 12 พ.ค. 51 14:28:13 A:58.8.97.235 X: ] http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/top...0/A6572630.html

Comments